อาหารหรือเครื่องดื่มทุกชนิดนั้นล้วนมีแคลอรี่อยู่ในตัว ซึ่งต่างชนิดก็ต่างปริมาณกันไปอยู่ที่คุณจะเลือกมากิน โดยการลดน้ำหนักด้วยวิธีนับแคลอรี่นั้นก็จะใช้ตัวเลขเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์นั่นเอง โดยปกติแล้วคนเรานั้นต้องการวันละไม่เกิน 2,000 แคลอรี่เป็นอย่างต่ำ แต่นั่นคือการรักษาน้ำหนักให้ไม่อ้วนไปกว่าเดิม มันจึงไม่ใช่ตัวเลขที่คนลดน้ำหนักนั้นต้องการ ตัวเลขจริงๆนั้นคุณอาจจะคำนวณได้จาก คำนวณแคลอรี่ หรือคุณอาจจะตั้งเป้าไว้เองก็ได้ว่าต้องการจะลดแคลอรี่ต่อวันไปเหลือเท่าไร ยิ่งแคลอรี่น้อยเท่าไรยิ่งส่งผลต่อน้ำหนักที่ลดลงไปเท่านั้น
หลายๆคนอาจจะมาติดแหงกอยู่ที่ข้อนี้ นั่นคือการนับแคลอรี่ของอาหารที่กินไปนั่นเอง การจะนับแคลอรี่นั้นคุณต้องจริงตังกับมันพอสมควร เพราะมันหมายถึงปริมาณน้ำหนักที่ลดและเวลาที่เสียไป ซึ่งหากคุณกำลังจะเริ่มนับแคลอรี่แล้วแต่ยังไม่รู้ว่าอาหารต่างๆนี่มันมีแคลอรี่เท่าไรกัน ก็ลองเข้าไปที่เว็บเหล่านี้แล้วพิมพ์อาหารที่ต้องการรู้แคลอรี่ลงไป รับรองว่ามีหมดแน่ บางเว็บก็บอกถึงสารอาหารอื่นๆอีกด้วยนะ แต่แค่ต้องพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษแล้วก็อาหารที่พิมพ์ไปต้องอยู่ในรูปของวัตถุดิบไม่ใช่เป็นชื่ออาหารก็พอ อย่างเช่น broccoli(บร็อคโคลี), apple(แอปเปิ้ล), onion(หัวหอม) เป็นต้น จริงๆแล้วบางเว็บสามารถใส่เป็นชื่ออาหารได้เลย แต่ติดอยู่ที่ว่ามันไม่มีพวกกระเพราหมู ข้าวหมูทอด ผัดซีอิ๊ว อะไรพวกนี้เพราะมันเป็นเว็บไซต์ของฝรั่งนั่นเอง เอาล่ะๆอย่าไปเสียดายเลย มาดูรายชื่อเว็บไซต์กันดีกว่า
caloriecount.about.com – มีบอกทั้งแคลอรี่ เกรดของอาหาร และสารอาหารอื่นๆที่มีในอาหารนั้นๆด้วย
acaloriecounter.com – บอกแคลอรี่และสารอาหารอื่นๆ รูปแบบสวยงามใช้ง่าย
calorieking.com/foods – บอกแคลอรี่ สารอาหารอื่นๆ และวิธีเผาผลาญแคลอรี่ในอาหารนั้นๆให้หมดไปด้วย
thecaloriecounter.com – บอกแคลอรี่ และมีการจัดอาหารให้เป็นหมวดหมู่
sparkpeople.com/calorie-counter.asp – มีบอกแคลอรี่และสารอาหารอย่างละเอียดถี่ยิบมาก
twofoods.com – ใช้เปรียบเทียบอาหารว่าอย่างไหนจะให้แคลอรี่มากกว่ากัน
6 เว็บไชต์นี้ก็น่าจะครอบคลุมอาหารทุกชนิดแล้วล่ะ แค่คุณต้องเลือกคำนวณดีๆและอย่าเข้าข้างตัวเองโดยการปัดเลขลงหมด เพราะมันจะไม่มีประโยชน์เลย
คราวนี้ก็มาถึงการนับถอยหลังที่จะผอมกันแล้ว ในวันแรกๆของการลดน้ำหนักนั้น รับรองว่าคุณจะค่อนข้างทรมานมากเลยทีเดียว เพราะคุณจะหิวอย่างรุนแรงและพยายามหาอะไรกินตลอดเวลา ซึ่งคุณอาจจะบ่นว่ามึนหัว ไม่มีแรง ตาลาย ต่างๆนาๆ มากมาย แต่ไอคำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น ร่างกายคุณในตอนนี้นั้นมีไขมันและอาหารสะสมมากพอที่จะไม่กินอะไรติดต่อกันเป็นวันๆได้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะล้มเลิกการลดน้ำหนักเลย ดื่มน้ำเข้าไป อดทนเข้าไว้และพอผ่านไปประมาณ 3-4 วันร่างกายจะเริ่มปรับตัวได้และคุณจะรู้สึกดีขึ้นอีก สำหรับคนที่ไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะกินก็ข้อให้เป็นพวกผลไม้แทนแล้วกัน
การลดน้ำหนักนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา มันไม่มีทางสำเร็จภายในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียวหรือเดือนเดียว อย่างน้อยๆก็ 3เดือนขึ้นไป คุณถึงจะเห็นผลได้ชัดเจน ซึ่งระหว่างนี้ถ้าอยากได้กำลังใจก็ลองชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้งดูก็ได้ เพราะถ้าคุณทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ทุกวัน ในหนึ่งสัปดาห์นั้นต้องน้ำหนักลดลงอย่างแน่นอน น้ำหนักที่ลดลงนี่แหละจะเป็นกำลังใจให้คุณทำต่อและไม่ยอมแพ้ สุดท้ายก็ขอให้เหล่าคนที่กำลังลดน้ำหนักทุกคนนั้นอดทน อดทน อดทน อดทน อย่างเดียว มันเป็นแค่ช่วงสั้นๆช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น สู้ตาย!!!ค่ะ
วิธีการลดน้ำหนักให้ได้ผลวิธีหนึ่งคือการควบคุมอาหาร(ไม่ใช่อดอาหารนะคะ) บวกกับการ
ออกกำลังกาย โดยการรับเข้า(คือการกิน)จะต้องน้อยกว่าการส่งออก(คือการออกกำลังกาย)
ใน 1 วันนั้นคนเราจะรับประทานอาหารวันละ 2200 กิโลแคลอรี่ โดยที่น้ำหนักตัวของคนเรานั้น
1 กิโลกรัม จะคิดเป็น 7700 กิโลแคลอรี่ สมมุติว่าถ้าเราจะลดนำหนักสัปดาห์ละ 1 กิโลกรัมหรือ 7700
กิโลแคลอรี่แล้ว ใน 1 วัน เราควรจะรับประทานอาหารลดลง 1100 กิโลแคลอรี่ (7 วันจะลดได้ 7700
กิโลแคลอรี่)เพราะฉะนั้นใน 1 วัน ควรจะรับประทานอาหาร 2200-1100 = 1100 กิโลแคลอรี่
BMR (Basal Metabolism Rate)
BMR คือ ค่าพลังงานที่ร่างกายต้องการขณะพัก หรือ ขณะที่ไม่ได้มีกิจกรรมใดใด
มีสูตรคำนวณ ดังนี้
BMR (kcal) = น้ำหนัก(กิโลกรัม) x 0.9 x 24
เมื่อหาค่า BMR ได้แล้ว งั้น มาต่อกันเลยค่ะ สมมติว่าได้ค่า BMR มาแล้ว คือ 1100 kcal. เราจะต้องบวกเพิ่มอีก
ประมาณ 300-400 kcal. เพราะ เรายังต้องมีกิจกรรมระหว่างวันอีก เช่น เดิน วิ่ง ขึ้นบันได เป็นต้น
สรุปว่าเราต้องการพลังงานทั้งหมดต่อวันคือ 1500 kcal. ดังนั้นอาหารที่เราต้องได้รับต่อวันต้องมี พลังงาน
หรือ แคลอรี่ 1500 ห้ามเกิน เพราะส่วนเกิน จะถูกสะสมในรูปของไขมันงัยหล่ะ
เอาหล่ะ มาเป็นนักโภชนาการมือสมัครเล่นกันได้แล้ว โดยเริ่มจาก การเลือกเมนูอาหารกันล่วงหน้าเลยนะคะ
ว่าวันพรุ่งนี้เราจะกิน อะไรกันดี ทั้งมื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อเย็นจากการวิจัยพบว่า หากเราสามารถควบคุมแคลอรี่
ให้น้อยกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวันลง 500 แคลอรี่เราจะสามารถ ลดน้ำหนักได้อาทิตย์ละ 0.5 กก.
รู้กันแล้วก็รีบบริหารแคลอรี่กันได้เลยนะคะ
0 Komentar